วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ความรู้วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ





วิวัฒนาการของมนุษย์

           มนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีชื่อวิทยาศาสตร์ Homo sapien sapien มีการดำรงชีวิตมาประมาณ 3 หมื่น-1 แสนปี มาแล้ว นักมนุษยวิทยาส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า มนุษย์ และ ลิงไร้หาง (Ape) มีบรรพบุรุษร่วมกัน


ข้อแตกต่างระหว่างมนุษย์กับลิง

1. การเดิน มนุษย์เดิน 2 ขา ลำตัวตั้งตรง ลิงเดิน 4 ขา
2. กระดูกเชิงกราน มนุษย์มีชิ้นถัดไปเรียงตัวในแนวตั้งกระดูกเชิงกรานลิงมีลักษณะลาดเอียง ดึงโน้มให้กระดูกคอและกะโหลกศีรษะเรียงตัวในแนวนอน
3. ปริมาตรของสมอง มนุษย์มีมากขึ้น
4. ส่วนของหน้าและขากรรไกร มนุษย์ลดขนาดลง
5. ลักษณะมือ มนุษย์และลิงคล้ายกัน แต่การใช้งานต่างกันเนื่องจากขนาดของนิ้วหัวแม่มือยาวไม่เท่ากัน นิ้วหัวแม่มือของลิงชิมแพนซี สั้นกว่าฐานข้อที่ 1 ของนิ้วชี้ ส่วนนิ้วหัวแม่มือของมนุษย์ ยาวเกือบกึ่งกลางของข้อที่ 2

สายวิวัฒนาการของมนุษย์

          จากการค้นพบฟอสซิล พบบรรพบุรุษของมนุษย์ ปรากฏขึ้นครั้งแรก สมัยไมโอซีน พบว่ามี

ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ African ape และเชื่อว่าวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน เมื่อประมาณ4-8 ล้านปีมาแล้ว มีการค้นพบ ฟอสซิล Australopithecines 4 สปีชีส์ คือAustralopithecus afarensis , A. africanus , A. robusts , A. bosei

Australopithecine สปีชีส์แรก คือ Australopithecus afarensis ลักษณะสำคัญ มีขนาดใหญ่กว่าชิมแพนซีเล็กน้อย สูง 1-1.5 เมตร (3-5 ฟุต) น้ำหนักตัว 25-50 กิโลกรัม สมองมีขนาดเล็ก ประมาณ 380-450 ลบ.ซม. ช่วงแขนยาวกว่าช่วงขา มีการค้นพบฟอสซิลของ A. afarensis ในอัฟริกา มีลักษณะเป็นผู้หญิง ตั้งชื่อว่า “Lucy” ฟอสซิล Australopithecus afarensis ชื่อลูซี “Lucy” ที่พบจำนวน 13 ฟอสซิล ทางตอนเหนือของทะเลทรายในเอธิโอเปียน ปี1974 โดย Donald Johanson ฟอสซิลมีอายุมากกว่า 3 ล้านปี โครงกระดูกเป็นลักษณะผู้หญิง เดินตัวตรง



          Australopithecine สปีชีส์ที่ 2 คือ Australopithecus africanus นักมนุษย์วิทยาเชื่อว่า A. africanus วิวัฒนาการ มาจาก A. afarensis ขนาดสมองอยู่ระหว่าง 494-600 ลบ.ซม. มีความสูงประมาณ 1.4 เมตร ส่วนหน้ามีลักษณะแบน ฟันหน้า (Incisor) มีขนาดเล็ก พบฟอสซิลของ A. africanus ในประเทศแทนซาเนียและเอธิโอเปีย มีอายุประมาณ 3 ล้านปี



          Australopithecine สปีชีส์ที่ 3 คือ Australopithecus robustusมีการดำรงชีวิตเมื่อประมาณ 2.3-1.3 ล้านปีมาแล้วมีลักษณะแตกต่างไปจาก 2 สปีชีส์แรก คือ สมองมีขนาดประมาณ 500-600 ลบ.ซม. มีความสูงประมาณ 1.5 เมตรน้ำหนักตัวประมาณ 45 กิโลกรัม มีหลักฐานพบว่า A. robustus มีการวิวัฒนาการแตกสายออกไป แล้วสูญพันธุ์



         Australopithecine สปีชีส์ที่ 4 คือ Australopithecus boisei นักมนุษย์วิทยามีหลักฐานพบว่า มนุษย์วานรสปีชีส์นี้มีวิวัฒนาการแตกสายแยกออกมาจาก A. afarensis สมองมีลักษณะคล้าย A. robustus มี Jawขนาดใหญ่และมีความกว้างของฟันมากกว่า มีการดำรงชีวิตอยู่ทางตะวันออกของทวีปอัฟริกา ในช่วง2.5-1.2 ล้านปีมาแล้ว



Human Species

          มนุษย์ มี 1 สกุล คือ สกุล Homo ประกอบด้วย 3 สปีชีส์ ได้แก่ Homo habilis, H. erectus, H. sapiens H. habilis และ H. erectus จัดเป็นมนุษย์โบราณ ที่สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว



         1. Homo habilis มนุษย์โบราณ ที่มีการดำรงชีพ เมื่อประมาณ 3-2 ล้านปีมาแล้ว มีความสูงประมาณ 1.5 เมตร สมองมีขนาดใหญ่ประมาณ 700 ลบ.ซม. ส่งผลทำให้ส่วนหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยแต่ขนาดของฟันหน้าและเขี้ยว กลับเล็กลง สามารถสร้างเครื่องมือหาอาหารสำหรับใช้ล่าสัตว์เล็กได้การดำรงชีวิตแบบเร่ร่อน



          ในปี 1960 นักมนุษย์วิทยาชื่อ Leaky ค้นพบฟอสซิลของ H. habilis ที่เมือง Olduvai Gorgeอยู่ทางตอนใต้ของทวีปอัฟริกา ฟอสซิลมีอายุประมาณ1.75 ล้านปี มีลักษณะเป็นผู้หญิง ตั้งชื่อฟอสซิลว่า “Twiggy” ยังมีการค้นพบฟอสซิลของ H. habilis อีกเป็นจำนวนมากในทะเลสาป Turkana ที่อยู่ทางตอนเหนือของทวีปอัฟริกา บริเวณที่ค้นพบฟอสซิล H. habilis ปรากฏว่าพบหลักฐานการประดิษฐ์เครื่องมือล่าสัตว์ ที่ทำมาจากหินแบบง่าย ๆ แสดงให้เห็นว่ามนุษย์สปีชีส์นี้มีการพัฒนาทางสมองมีความสามารถในการควบคุมสภาพแวดล้อมได้



          2. Homo erectus เป็นมนุษย์กลุ่มแรก ที่อพยพย้ายถิ่นฐานออกจากทวีปอัฟริกา ไปยังทวีปเอเชียและทวีปยุโรป มีการดำรงชีพ เมื่อประมาณ 1.5 ล้านปีมาแล้ว มีความสูงประมาณ 1.6-1.8 เมตร (6 ฟุต)มีน้ำหนักตัวประมาณ 48 กิโลกรัม มีขนาดสมองประมาณ 800-1250 ลบ.ซม. สามารถสร้างเครื่องมือล่าสัตว์ใหญ่ได้ มีการสร้างที่อยู่อาศัย แต่ยังคงดำรงชีวิตแบบเร่ร่อน มีเครื่องนุ่งห่ม เริ่มรู้จักใช้ไฟมีการค้นพบฟอสซิลมนุษย์โบราณ Homo erectus โดยพบกะโหลกศีรษะในทะเลสาป Turkanaฟอสซิล มีอายุมากกว่า 1.5 ล้านปี มีลักษณะค่อนมาทางมนุษย์ปัจจุบัน ฟอสซิล มีลักษณะคล้ายมนุษย์ชวาและมนุษย์ปักกิ่ง



          3. Homo sapiens มนุษย์ปัจจุบัน มีเพียง 1 สปีชีส์ แบ่งออกเป็น มนุษย์ปัจจุบันสมัยแรก

Homo sapiens Neanderthal มนุษย์ปัจจุบันสมัยสุดท้าย Homo sapiens sapiens

มนุษย์ปัจจุบันสมัยแรก Homo sapiens neanderthalensis ดำรงชีพ เมื่อประมาณ 4 แสนปีมาแล้วสมองมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบันเล็กน้อย ขนาดสมองประมาณ 1,400 ลบ.ซม. พบฟอสซิลที่บริเวณNeanderthal valley มนุษย์นีอัลเดอร์ทัล โครงร่างมีลักษณะเตี้ย มีกล้ามเนื้อ มากกว่ามนุษย์ปัจจุบันจมูกมีลักษณะแบน และรูจมูกกว้าง ทั้งนี้เนื่องจากมีการดำรงชีพอยู่ในเขตหนาว ทำให้นักมนุษย์วิทยามีข้อสันนิษฐานว่า การที่มีโครงร่างและลักษณะในแบบนี้อาจมีผลเนื่องจากต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถดำรงชีพในเขตหนาวได้ดีขึ้น มนุษย์ปัจจุบันสมัยสุดท้าย Homo sapiens sapiens ดำรงชีพเมื่อประมาณ 3 หมื่น ถึง 1 แสนปี มาแล้ว มีการค้นพบฟอสซิลของมนุษย์โครมันยอง ลักษณะสมองมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบันเล็กน้อย ประมาณ 1,350 ลบ.ซม.


ความแตกต่างของกะโหลกศีรษะระหว่างมนุษย์ปัจจุบันและมนุษย์นีอัลเดอร์ทัล

          ลักษณะทั่วไปจะคล้ายคลึงกัน มีเพียงบางลักษณะที่แตกต่างกันเห็นได้ชัด คือ นีอัลเดอร์ทัล หน้าผากลาดแคบมีสันคิ้วใหญ่หนา คางแคบหดไปทางด้านหลัง


  วิวัฒนาการด้านอารยธรรม (Cultural evolution)  มนุษย์แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตอื่นโดยมีวิวัฒนาการด้านอารยธรรมและวัฒนธรรมที่อาศัยการเรียนรู้สืบทอดกันมา



สาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการด้านอารยธรรมเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ 2 ประการ คือ

1) การเดินตัวตรงของมนุษย์ ส่งผลให้กระโหลกศีรษะ มีการเปลี่ยนแปลง มีสมองใหญ่ขึ้นมีความคิดมากขึ้น ทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการด้านวัฒนธรรมและอารยธรรม

2) พ่อแม่ดูแลลูกเป็นระยะเวลานาน ส่งผลทำให้ ลูกมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากพ่อแม่มากขึ้น ได้แก่ Knowledge, Customs, Belief, Arts etc

วิวัฒนาการทางอารยธรรมของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง

1. Scavenging-gathering-Hunting เป็นช่วงแรกของ Homo habilis,H.erectus , Neanderthal (Modern man)
2. ทำเกษตรกรรม (Agriculture) เป็นช่วงที่ 2
3. ช่วงอุตสาหกรรม (The machine age) เป็นช่วงที่ 3


Cultural evolution

          เป็นสิ่งสำคัญ ที่ส่งผลทำให้มนุษย์ สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมของโลกให้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าปกติ นอกจากนี้มนุษย์ มี Cultural evolution อันเกิดขึ้นจากเปรียบเทียบ การเจริญด้านวัฒนธรรมและอารยธรรม และจากลักษณะที่แตกต่างทางพันธุกรรม ได้แก่ สีผิว สีผม สีตาและรูปร่างที่แตกต่างกันไปตามถิ่นที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ส่งผลให้มีการแบ่งเผ่าพันธุ์ (Races) อันเกิดจากผลของ Biological evolution ด้วยการแบ่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ (Races) แบ่งออกเป็นคอเคซอยด์ (Caucasoid), มองโกลอยด์ (Mongoloid), นีกรอยด์ (Negroid) และออสเตรลอยด์ (Australoid)


คอมพิวเตอร์หมายถึง
คอมพิวเตอร์ หมายถึง  เครื่องคำนวณ  อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ  พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า  เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล  ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ หรืออาจกล่าวได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หมายถึง  เครื่องมือที่ช่วยในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล

ความสำคัญของคอมพิวเตอร์
 คอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการทำงานที่รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ เก็บข้อมูลได้มากมายมหาศาล และทำงานได้โดยอัตโนมัติ  คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้สำหรับงานที่ต้องมีการประมวลผลการทำงานที่ซับซ้อนเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ที่จะทำได้ หรือมนุษย์สามารถทำได้ แต่ก็จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานมาก และอาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดได้อย่างง่ายดาย เช่น การคำนวณตัวเลขหลายหลักภายในเวลาอันรวดเร็ว การทำงานในแบบเดียวกันซ้ำๆ กันหลายครั้ง  การจดจำข้อมูลตัวเลขและตัวอักษรจำนวนมาก เป็นต้น  ซึ่งงานที่น่าเบื่อและยุ่งยากเหล่านี้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานแทนมนุษย์ โดยที่มนุษย์มีหน้าที่เพียงเป็นผู้สั่งการเท่านั้น  ดังนั้นทั้งหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชนจึงมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานกันอย่างกว้างขวาง แม้แต่องค์กรขนาดเล็ก ก็ยังต้องนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน 
      คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทในการทำงานแทนมนุษย์หลายลักษณะ เช่น การทำงานที่เสี่ยงอันตราย การคำนวณทางวิศวกรรม การคำนวณทางสถิติ การทำธุรกิจทั้งภายในและภายนอกองค์กร การสร้างงานศิลปะ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การจัดการงานเอกสาร เป็นต้น จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงานของหลายหน่วยงาน  และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช้งานคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน ดังต่อไปนี้
            1. การสื่อสาร (communication)
                ในยุคปัจจุบันเรียกว่า เป็นยุคแห่งการสื่อสารแบบไร้พรมแดน มีการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ คอมพิวเตอร์สามารถช่วยในการติดต่อสื่อสารกับทุกคนได้ทุกมุมโลกได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail)  การพูดคุยและส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังสามารถสร้างเว็บเพจส่วนบุคคลให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวเข้ามาชมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
            2. การเลือกซื้อสินค้า (shopping)
                การเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า ไซเบอร์มอลล์ (cyber mall) เพื่อเลือกชมสินค้าและสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบการบริการทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้
            3. การสืบค้นข้อมูล (searching)
                การสืบค้นข้อมูลต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเครื่องมือหรือโปรแกรมในการค้นหาเว็บไซต์ ที่เรียกว่า "search engine" เช่น www.sanook.com,  www.google.co.th,  www.bing.com  เป็นต้น  เพื่อค้นหาบทความ เอกสาร ข่าวท้องถิ่น ข่าวภายในประเทศหรือต่างประเทศ รูปภาพต่างๆ ตามความสนใจได้ ซึ่งในปัจจุบันจะมีลักษณะเป็นมัลติมีเดีย เช่น ภาพ เสียง คลิปวิดีโอ เป็นต้น ที่สัมพันธ์กับเนื้อหาให้เลือกชมมากมาย
            4. ด้านความบันเทิง (entertainment)
                สามารถอ่านหนังสือ ฟังเพลง ชมรายการต่างๆ ของสถานีโทรทัศน์ และเล่นเกมผ่านคอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาหาความรู้ ฝึกทักษะในด้านต่างๆ และผ่อนคลายความเครียดโดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็ได้
            5. ด้านการศึกษา (education)

                เช่น การนำคอมพิวเตอร์มาใช้พิมพ์รายงาน นำเสนอผลงาน ทำสื่อการเรียนการสอน ทำงานหรือการบ้านส่งอาจารย์ รวมถึงการเรียนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) ที่เป็นโปรแกรมประยุกต์ทางเว็บไซต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าเรียนวิชาต่างๆ ได้ โดยมีหลักสูตรหรือวิชาต่างๆ ให้เลือกมากมายในทุกๆ ระดับชั้น บางหลักสูตรเรียนฟรี แต่ในบางหลักสูตรอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น