
เศรษฐศาสตร์ (economics) คือ การศึกษาวิธีการเลือกใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และสังคม
วิชาเศรษฐศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 แขนงวิชา
1. เศรษฐศาสตร์จุลภาค (microeconomics)
เศรษฐศาสตร์จุลภาค จะศึกษาเกี่ยวกับหน่วยเศรษฐกิจขนาดเล็ก โดยจะศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจใช่ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ศึกษาว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการอย่างไรเพื่อให้ตอบสนองความต้องการสูงสุดของตัวผู้บริโภค ด้วยวงเงินที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น หากผู้บริโภคมีเงิน อยู่ 100 บาท ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเนื้อหมูได้ 1 กิโลกรัม หรือ เนื้อไก่ได้สองกิโลกรัม ผู้บริโภคจะเลือกซื้ออะไร และทำไม การศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาค จะรวมไปถึงการศึกษาองค์กรว่ามีการใช้ทรัพยากรในการผลิตอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจเกิดผลกำไรสูงสุด เป็นต้น
2. เศรษฐศาสตร์มหภาค (macroeconomics)
เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็นการศึกษาหน่วยเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยจะศึกษาโดยรวมทั้งระบบ เช่น การศึกษารายได้ประชาชาติของทั้งประเทศ หรือการบริโภคสินค้าและบริการ ของประชาชน รวมไปถึงศึกษาภาวะเงินเฟ้อ เงินฝืด การค้าระหว่างประเทศและการจ้างงาน
ประโยชน์ของวิชาเศรษฐศาสตร์
1. คาดการณ์ผลที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาล เราคงเคยได้อ่านข่าวเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล ในบางครั้งเราไม่เข้าใจสิ่งที่รัฐบาลทำคืออะไร มีผลอย่างไรกับเรา และเราต้องปรับตัวอย่างไร เช่น เมื่อรัฐบาลประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ จะมีผลทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงด้วย แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นจะทำให้กิจการต่างๆจะลดการลงทุนเพราะว่าการลงทุนจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยในราคาที่สูงขึ้นไม่คุ้มกับผลกำไรที่จะได้รับ ดังนั้นเราจึงควรปรับลดการลงทุนตาม เป็นต้น
2. เพื่อศึกษาอุปสงค์และอุปทาน และกลไกลของราคา ของสินค้าเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธการทำการตลาดของธุรกิจของคุณให้ดียิ่งขึ้น เช่น คุณควรตั้งราคาของสินค้าที่คุณจะขายอย่างไรให้ได้กำไรสูงสุด หรือ จะผลิตสินค้าเท่าไรเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด เพราะการขายได้จำนวนที่มากที่สุดไม่ได้แปลว่าคุณจะกำไรมากที่สุด
3. เพื่อมองหาโอกาสในตลาด หากคุณได้ศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ ทั้งหมดแล้วคุณจะมองเห็นโอกาสทางการลงทุนมากขึ้น เช่น เมื่อคุณรู้ว่ารัฐบาลสหรัฐประกาศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะมีผลทำให้ค่าเงิน USD แข็งตัว และจะมีผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัว คุณจะรู้โดยทันทีว่าธุรกิจประเภทไหนจะได้รับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ และคุณจะเลือกลงทุนในธุรกิจประเภทนั้น เช่นหากค่าเงินบาทอ่อนตัว จะมีผลดีกับธุรกิจส่งออกอย่างมาก เป็นต้น
4. หากคุณเป็นผู้บริหารคุณจะรู้ถึงสภาวะกิจการของตัวเอง เช่น เมื่อกิจการคุณผลิต ผลิตภันฑ์ชิ้นหนึ่งออกมากจำหน่ายในตลาดแล้วขายดีในช่วงเวลาหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไปยอดขายคุณจะค่อยๆลดลง คุณจะรู้โดยทันทีว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้อยู่ในช่วงเวลาถดถอย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำมาปรับปรุงและปรับโฉม หรือคิดผลิตภันณ์ใหม่เพื่อปล่อยกับสู่ตลาด
5. เพื่อศึกษาการควบคุมต้นทุนการผลิต และศึกษากลยุทธของคู่แข็ง เพื่อเตรียมตัวแข่งขันในด้านราคา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น